กงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน เข้าพบหารือกับอธิบดีกรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว มณฑลส่านซี

          เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 นางสาวสุรีย์ ไตรรัตนนุกูล กงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน พร้อมด้วยนางสาววรรัตน์ พิริยานสรณ์ รองกงสุลใหญ่ และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เข้าพบหารือกับนายเกา หยาง(Gao Yang: 高阳) อธิบดีกรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว มณฑลส่านซี และคณะผู้บริหารกรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวฯ เพื่อหารือถึงโอกาสในการส่งเสริมความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยกับมณฑลส่านซี

          อธิบดีฯ ได้กล่าวว่า ยินดีต้อนรับกงสุลใหญ่ฯ และคณะสถานกงสุลใหญ่เนื่องในโอากาสที่เป็นแขกกลุ่มแรก
ที่กรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวฯ ให้การต้อนรับตามปฏิทินปีเสือของจีน โดยได้กล่าวแสดงความผูกพันกับประเทศไทย เนื่องจากในปีที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสเข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองวันชาติของสถานกงสุลใหญ่ ประกอบกับในปี 2562 ได้มีโอกาสเข้าร่วมคณะของรองผู้ว่าราชการมณฑลส่านซีเดินทางเยือนจังหวังสุโขทัย (เมืองพี่เมืองน้องของมณฑลส่านซี) และกรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ของประเทศไทย ซึ่งตนมีความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้อธิบดีฯ ได้กล่าวขอบคุณกงสุลใหญ่ฯ ที่ได้ให้ความร่วมมือกับกิจกรรมต่าง ๆ ของกรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวฯ ด้วยดีตลอดปีที่ผ่านมาอีกด้วย

          กงสุลใหญ่ฯ กล่าวว่า ขอบคุณอธิบดีฯ ที่สละเวลาให้ได้มีโอกาสเข้าพบอย่างเป็นทางการ โดยตนได้เข้ามารับตำแหน่งเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา ตนเห็นว่า ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมระหว่างไทย - ส่านซี ยังมีโอกาสที่จะสามารถขยายความร่วมมือได้อีกมาก ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยเป็นประเทศยอดนิยมอันดับ 1 ที่ นักท่องเที่ยวจากส่านซีนิยมเดินทางไปพักผ่อนถึง 5 ปีซ้อน ซึ่งในปี 2561 เส้นทางการบินระหว่างไทย-นครซีอานมีจำนวนมากถึง 80 เที่ยว/สัปดาห์ และถึงแม้ว่าในห้วงสถานการณ์โควิด-19 จะทำให้ชาวส่านซียังไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศไทยได้สะดวก แต่สถานกงสุลใหญ่ฯ จะมุ่งดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็น Top of Mind ของชาวจีนต่อไป

          ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือถึงโอกาสต่าง ๆ ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและมณฑลส่านซี โดยในปี 2565 สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงมีแผนจะส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมในรูปแบบประชาชน-ประชาชน เพื่อส่งเสริมให้การดำเนินความสัมพันธ์เป็นไปอย่างยั่งยืน ตลอดจนการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทย-มณฑล เนื่องด้วยประเทศไทยและมณฑลส่านซีมีความคล้ายคลึงทางวัฒนธรรมมากมาย โดยเฉพาะ วัฒนธรรมทางพุทธศาสนา รวมถึงการใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งในระบบขนส่งทางรางของมณฑลส่านซีและที่ตั้งของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อประโยชน์ในด้านการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันต่อไป

                                                *****************************