รัฐบาลมณฑลกานซูแถลงข่าวว่า มณฑลจะจัดงานมหกรรมอุตสาหกรรมแพทย์แผนจีน (จีน–กานซู) ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 23–25 สิงหาคม 2568 ณ อำเภอหลงซี (Longxi : 陇西县) เมืองติ้งซี (Longxi : 定西市) มณฑลกานซู ภายใต้หัวข้อ “สืบสาน พัฒนา เปิดกว้าง แบ่งปัน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างมีคุณภาพของแพทย์แผนจีน” โดยในปี 2568 ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานในลักษณะที่เน้นกลไกตลาด มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้
           กิจกรรมหลักในงานมหกรรมฯ ประกอบด้วย (1) พิธีเปิดและการประชุมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม (2) เวทีการตีความนโยบายและประกาศมาตรฐานใหม่ของแพทย์แผนจีน (3) เวทีว่าด้วยการขยายเครือข่ายวิชาชีพทางการแพทย์ (4) เวทีส่งเสริมบทบาทแพทย์แผนจีนในการพัฒนาชนบท (5) เวทีความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนและการเยี่ยมชมภาคสนาม รวมทั้งสิ้นกว่า 10 รายการ
           รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนจีน มณฑลกานซู ให้ข้อมูลว่า มณฑลกานซูถือเป็นแหล่งกำเนิดทรัพยากรสมุนไพรที่สำคัญขนาดใหญ่ของจีน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มณฑลกานซูได้อาศัยจุดแข็งด้านทรัพยากรสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมยาจีนมูลค่าแสนล้านหยวน ในปี 2567 มีพื้นที่เพาะปลูกสมุนไพรจีนมากถึง 13.4 ล้านไร่ ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมการผลิตยาจีนมีศักยภาพการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถพัฒนาวิสาหกิจมูลค่าร้อยล้านหยวนและและผลิตภัณฑ์สมุนไพรจีน “หลงเย่า : 陇药” ที่มีศักยภาพสูง ทั้งนี้ ในปี 2567 มูลค่ารวมของทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมยาจีนในมณฑลกานซูอยู่ที่ 9.72 หมื่นล้านหยวน และในปี 2568 คาดว่าจะทะลุหลักแสนล้านหยวนเป็นครั้งแรก
           รองนายกเทศมนตรีเมืองติ้งซี ให้ข้อมูลว่า สมุนไพรจีนของเมืองติ้งซีมีชื่อเสียงในเรื่องความ “เขียว สะอาด ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ และคุณภาพดีเยี่ยม”  อันเนื่องมาจากภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศเฉพาะถิ่น ที่เอื้อต่อการปลูกสมุนไพรพื้นเมือง เช่น สมุนไพรตังกุย (当归 : Danggui หรือ Angelica sinensis) สมุนไพรหวงฉี (黄芪 : Huangqi หรือ Milkvetch Root) และสมุนไพรต่างเซิน (党参: Dangshen หรือ Radixcodonopsis) มีพื้นที่เพาะปลูกรวมกว่า 5.04 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 500,000 ตัน ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในระดับเมืองทั่วประเทศ โดยพื้นที่เพาะปลูกของสมุนไพรตังกุย สมุนไพรหวงฉี และสมุนไพรต่างเซิน มีสัดส่วนคิดเป็น 60% 40% และ 20% ของพื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศตามลำดับ
           การจัดงานมหกรรมฯ ในครั้งนี้ นอกจากจะย้ำบทบาทของกานซูในฐานะแหล่งสมุนไพรและแพทย์แผนจีนที่สำคัญของประเทศจีนแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทย ได้สร้างความร่วมมือในด้านการวิจัย การพัฒนา และการแลกเปลี่ยนภูมิปัญญาเกี่ยวกับสมุนไพร โดยเฉพาะในบริบทของการพัฒนาสมุนไพรไทย การต่อยอดผลิตภัณฑ์สุขภาพ และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพเชิงบูรณาการในอนาคต

          ที่มา : https://news.qq.com/rain/a/20250719A0600Q00
          ที่มาของรูป : https://699pic.com/tupian-600483088.html

ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน

 ผู้เรียบเรียง : อรัญญา รุ่งเรือง