เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 นางอรพินทร์ หาญชาญชัยกุล กงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน ได้รับเชิญจากสำนักงานการต่างประเทศมณฑลส่านซี เป็นผู้แทนคณะกงสุลต่างประเทศกล่าวสุนทรพจน์ เนื่องในวันสตรีสากล ครั้งที่ 114 ประจำปี 2567 โดยนางหวัง อวี้เอ๋อ (Wang Yu’e: 王玉娥) ประธานสหพันธ์สตรีมณฑลส่านซีนางเหยา หงเจวียน (Yao Hongjuan: 姚红娟) อธิบดีสำนักงานการต่างประเทศมณฑลส่านซี และ Mr. Hong Soon-chang กงสุลใหญ่เกาหลีใต้ ณ นครซีอานและภริยา รวมทั้งผู้แทนสถานกงสุลใหญ่มาเลเซีย ณ นครซีอานและผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม

           ในโอกาสดังกล่าวนางต่าง เจี๋ย (Dang Jie:党洁) รองประธานสหพันธ์สตรีมณฑลส่านซีเป็นผู้กล่าวเปิดงาน โดยกล่าวว่า วันสตรีสากล "๘ มีนาคม"  ไม่เพียงแต่เป็น “สัญลักษณ์” ของความสามัคคีของสตรีทั่วโลกในการต่อสู้เพื่ออิสรภาพเท่านั้น แต่ยังเป็น “พยาน” ถึงบทบาทสำคัญของสตรีในการพัฒนาสังคมอีกด้วย อีกทั้งสตรียังมีบทบาทสำคัญในการสืบทอด และพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (Intangible cultural heritage) รวมทั้งการเผยแพร่ไปสู่นานาประเทศอีกด้วย และหวังว่าทุกคนจะส่งเสริมการติดต่อ แลกเปลี่ยน บูรณาการภูมิปัญญาของสตรีเพื่อความร่วมมือระหว่างสตรีจากทั่วทุกมุมโลกที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง

            กงสุลใหญ่ฯ ได้กล่าวว่า สตรีทุกคนล้วนเปี่ยมล้นด้วยคุณภาพและมีความสามารถในตัวเองทั้งสิ้น ดังคำกล่าวของท่านอดีตประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตง ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ว่า “สตรีนั้นแบกฟ้าไว้ครึ่งหนึ่ง” โดยเชื่อว่าวาทะดังกล่าวไม่ได้สะท้อนแค่ความเท่าเทียมกันของชายและหญิงเท่านั้น แต่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า สตรีนั้นเป็นกำลังสำคัญในทุกบทบาท ทุกสถานภาพ ไม่ว่าจะระดับครอบครัว ระดับชุมชน ระดับประเทศ ระดับภูมิภาคหรือระดับโลก โดยได้ยกตัวอย่างสตรีที่โดดเด่นในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ยังแสดงความชื่นชมยินดีต่อทุกความสำเร็จของสุภาพสตรีทุกท่าน และเรียกร้องให้สตรีทุกท่านร่วมกันผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้สตรีอื่น ๆ ก้าวไปข้างหน้าอย่างองอาจ กล้าหาญ เพื่อตามความฝันของตน และเพื่อสร้างสังคมที่ดี ก้าวหน้าและงดงามกว่าเดิม เพื่อส่งต่อให้อนุชนรุ่นหลัง เฉกเช่นสตรีในประวัติศาสตร์ที่ได้รังสรรค์และมอบสิ่งที่ดี ที่งดงาม ให้แก่ทุกคนและโลกใบนี้

            ในงานดังกล่าวได้มีการเดินแบบชุดกี่เพ้า ชุดประจำชาติของจีน เริ่มจากชุดกี่เพ้าแบบดั้งเดิมไปจนถึงชุดร่วมสมัย ประกอบคำบรรยายโดยนางหวัง ปิงเซียว (Wang Bingxiao: 王冰潇) นักออกแบบชุดกี่เพ้าที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ไทยและมาเลเซียได้รับเชิญให้ขึ้นแสดงชุดประจำชาติ เพื่อเผยแพร่ให้เห็นถึงความงดงามของชุดประจำชาติ และที่สำคัญยังเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของแต่ละประเทศและสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันอีกด้วย

                                                                                                 ****************************