งานเทศกาลทุเรียนไทย จัดขึ้นโดยบริษัท CP Group ระหว่างวันที่ 25–26 เม.ย. 2568 ณ เมืองยวี๋หลินและเมืองเป่าจี โดยวันที่ 25 เมษายน 2568 นางอรพินทร์ หาญชาญชัยกุล กงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน ได้เข้าร่วมงาน ณ เมืองยวี๋หลิน โดยนายสือ กวาง (Shi Guang: 时光) ประธานอาวุโสประจำภูมิภาคส่านซี บริษัท CP Group เป็นประธาน
นางหยาง เยว่ (Yang Yue: 杨跃) รองผู้อำนวยการสำนักงานพาณิชย์เมืองยวี๋หลินเข้าร่วม และเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2568 นายพนา สถิตศาสตร์ รองกงสุลใหญ่ เข้าร่วมงานเทศกาลทุเรียนไทย ณ เมืองเป่าจี โดยนายหวง หนิงอัน (Huang Ning’an: 黄宁安) รองผู้อำนวยการพาณิชย์เมืองเป่าจี นายจาง ฉางกง (Zhang Changgong : 张长弓)  ประธานบริษัทเป่าจีเหล่าซือเหรินพัฒนาเชิงพาณิชย์ จำกัด และนายเสิ่น หงจวิน (Shen Hongjun : 沈红军) รองประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจเกษตรและอาหาร มณฑลส่านซี
บริษัท CP Group เข้าร่วม

           การจัดงานเทศกาลทุเรียนไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและวัฒนธรรมไทย-จีน ภายในงานมีการจัดแสดงและจำหน่ายทุเรียนไทยและสินค้าอื่น ๆ ของ CP Group พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับทุเรียนและจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยในปี 2568 จีนมีการนำเข้าทุเรียนสดจากไทยกว่า 784,700 ตัน มูลค่า 27.49
พันล้านหยวน
           ในพิธีเปิด ณ เมืองยวี๋หลิน นางอรพินทร์ หาญชาญชัยกุล กล่าวว่า งานดังกล่าวสอดคล้องกับวาระ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีนในปี 2568 ไทยเป็นผู้ส่งออกเกษตรรายสำคัญ โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งได้รับความนิยมสูง พร้อมขอบคุณรัฐบาลยวี๋หลินและบริษัท CP Group ที่สนับสนุนงาน ซึ่งช่วยส่งเสริมทั้งเศรษฐกิจ การค้า และความเข้าใจทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนสองประเทศ

           ในพิธีเปิด ณ เมืองเป่าจี นายพนา สถิตศาสตร์ รองกงสุลใหญ่ ได้กล่าวย้ำบทบาทเมืองเป่าจีในความร่วมมือไทย-จีน และความนิยมทุเรียนไทยในจีน พร้อมขอบคุณการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่น ขณะเดียวกัน นายเสิ่น หงจวิน ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย-จีนตลอด 50 ปี และบทบาท CP ในการพัฒนาเกษตรในส่านซีโดยยืนยันเดินหน้าสานต่อความร่วมมือไทย-ส่านซีในอนาคต นอกจากนี้ นายหลี่ อู่ฟา (Li Wufa: 李武发) รองนายกเทศมนตรีเมืองเป่าจี และนายพนาฯ ยังได้หารือแนวทางขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รวมถึงการจัดกิจกรรม Business Matching ระหว่างผู้ประกอบการไทย-จีน ทั้งในจีนและไทย เพื่อเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการจากทั้งสองฝ่ายได้พบปะ เจรจา และสร้างความร่วมมือ
ทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในรูปแบบการนำนักธุรกิจไทยไปสำรวจตลาดในจีน หรือเชิญนักธุรกิจจีนเดินทางไปพบปะภาคเอกชนในประเทศไทย เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและ
การลงทุนร่วมกันในอนาคต      
          

****************************