East Data West Computing Industrial Park: การพัฒนาศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของเมืองชิ่งหยาง

East Data West Computing Industrial Park: การพัฒนาศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของเมืองชิ่งหยาง

วันที่นำเข้าข้อมูล 5 พ.ย. 2568

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2568

| 6 view

          ในยุคที่เศรษฐกิจดิจิทัลกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ข้อมูลและการประมวลผลข้อมูลได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นวัตกรรม และความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ดังนั้น จีนจึงได้ริเริ่มโครงการ “East Data West Computing” (东数西算) ซึ่งเป็นโครงการจัดสรรทรัพยากรข้อมูลระหว่างภูมิภาค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลข้อมูล ลดต้นทุนพลังงานและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน

          เมืองชิ่งหยางมีข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้ง โครงสร้างทางธรณี ทรัพยากรพลังงานอุดมสมบูรณ์ และมีสภาพอากาศเย็นตลอดปี ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เมืองชิ่งหยางสามารถตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผลข้อมูลของภูมิภาคตะวันออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นเมืองชั้นนำในด้านพลังการประมวลผลของจีน นอกจากนี้ เมืองชิ่งหยางยังเดินหน้าพัฒนา “East Data West Computing” (东数西算) อย่างต่อเนื่อง กลายเป็นหนึ่งในโครงข่ายศูนย์กลางพลังการประมวลผลระดับประเทศ และมีบทบาทสำคัญในการผลักดัน
การเติบโตของ AI และเศรษฐกิจดิจิทัล สามารถดึงดูดบริษัทชั้นนำด้านเศรษฐกิจดิจิทัลเข้ามาลงทุน ซึ่งช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ให้กับพื้นที่

          1. ภาพรวมของโครงการ Gansu Qingyang East Data West Computing Industrial Park ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองชิ่งหยาง มณฑลกานซู มีพื้นที่ประมาณ 7,083 ไร่ เป็นศูนย์กลางการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของเมืองชิ่งหยาง และมณฑลกานซู ภายใต้แผนงานระดับชาติ “East Data West Computing” (东数西算) ซึ่งเป็นการย้ายฐานการประมวลผลข้อมูลจาก “ภาคตะวันออก” (ภูมิภาคที่มีความต้องการด้านข้อมูลสูง เป็นพื้นที่พัฒนาแล้ว แต่มีพลังงาน ที่ดิน และระบบการจัดการความร้อนที่จำกัด) ไปยัง “ภาคตะวันตก” (มีทรัพยากรพลังงานอุดมสมบูรณ์ มีความได้เปรียบด้านที่ดินและสภาพภูมิอากาศที่เย็นตลอดปี) เพื่อให้เกิดการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านการคำนวณ เช่น data center, cloud, big data อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของการจัดตั้งเครือข่ายการคำนวณทั่วประเทศ

          Gansu Qingyang East Data West Computing Industrial Park ถือเป็นต้นแบบของศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ โดยเป็นที่ตั้งของศูนย์ข้อมูล China Mobile (Gansu · Qingyang) ที่ก่อสร้างอาคารตามมาตรฐานระดับ A แล้ว 2 อาคาร ได้แก่ N01 (เป็นศูนย์ข้อมูลแห่งแรกที่เปิดดำเนินการ) เปิดใช้งานแล้ว และ N02 (ศูนย์ประมวลผลอัจฉริยะ) นอกจากนี้ ยังมีอาคาร B01 อยู่ระหว่างเตรียมเปิดใช้งาน รองรับเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 12,000 ตู้ มีศักยภาพประมวลผลกว่า 30,000 PetaFLOPS

          2. การพัฒนาและเป้าหมายของโครงการ

             2.1 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและปฏิรูปแห่งชาติ (National Development and Reform Commission: NDRC) และหน่วยงานรัฐอีก 3 แห่ง ได้อนุมัติให้มณฑลกานซูเริ่มดำเนินการสร้างศูนย์กลางเครือข่ายศักยภาพการประมวลผลระดับชาติแบบบูรณาการ โดยจัดตั้ง Qingyang Data Center Cluster (庆阳数据中心集群) เพื่อรองรับความต้องการด้านการประมวลผลจากหลายภูมิภาค เช่น ปักกิ่ง–เทียนจิน–เหอเป่ย/เส้นทางสามเหลี่ยมแม่น้ำแยงซี/เขตอ่าวกวางตุ้ง–ฮ่องกง–มาเก๊า โดยในปี 2567 มีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมใช้และขยายตัวต่อเนื่อง กลายเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีเอกลักษณ์และข้อได้เปรียบเฉพาะด้าน

             2.2 เมื่อสิ้นสุดแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 14 (2564–2568) ศูนย์ฯ ตั้งเป้าจัดตั้งตู้เซิร์ฟเวอร์มาตรฐานรวมไม่น้อยกว่า 300,000 ตู้ ให้บริการ AI บนเครือข่าย 5G บูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่กับอุตสาหกรรมดั้งเดิม และยกระดับอุตสาหกรรมสู่ระดับกลาง–สูง และเป็นเขตทดลองนวัตกรรม AI และเศรษฐกิจดิจิทัลระดับประเทศ

             2.3 ภายในปี 2573 ศูนย์ฯ ตั้งเป้าตู้เซิร์ฟเวอร์มาตรฐานรวมไม่น้อยกว่า 800,000 ตู้ มูลค่อุตสาหกรรมเกิน 4 แสนล้านหยวน ใช้เทคโนโลยี Big Data และ AI ในภาคการผลิต โลจิสติกส์ และพลังงาน และยกระดับชิ่งหยางเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัลของมณฑลกานซู

          3. ข้อได้เปรียบและจุดเด่นของชิ่งหยาง

             3.1 ทำเลที่ตั้ง การคมนาคมสะดวก เมืองชิ่งหยางตั้งอยู่จุดเชื่อมต่อของมณฑลส่านซี กานซู และเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย เชื่อมต่อภูมิภาคตะวันตกและตะวันออก เป็นจุดเชื่อมต่อของเส้นทางรถไฟและทางหลวงและเป็นเมืองสำคัญในกลุ่มเมืองที่ราบสูง มีระยะทางที่เชื่อมไปยังเขตเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ปักกิ่ง–เทียนจิน–เหอเป่ย/สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี/สนามบินและทางด่วน/รถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อเมืองหลัก ช่วยให้
การเคลื่อนย้ายข้อมูลและบุคลากรได้สะดวก

             3.2 โครงสร้างธรณีวิทยาที่มีความปลอดภัยสูง เมืองชิ่งหยางมีความได้เปรียบทางธรรมชาติ ทั้งด้านความมั่นคงทางธรณีวิทยาที่ปราศจากรอยเลื่อนและความเสี่ยงการเกิดแผ่นดินไหวต่ำ เหมาะแก่การสร้างและดำเนินงานศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ พื้นที่ป่ากว้างถึง 3.2 ล้านไร่ ครอบคลุม 26.3% ของเมือง และปริมาณไอออนลบสูงกว่า 20,000 ต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้อากาศบริสุทธิ์ สดชื่นและปลอดภัยจากมลภาวะหรือรังสีอันตราย นอกจากนี้ อุณหภูมิต่ำเฉลี่ย 8.4–9.7°C ซึ่งเอื้อต่อการลดการใช้พลังงานและต้นทุนการดำเนินงานศูนย์ข้อมูลทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล

             3.3 พลังงานและไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการ เมืองชิ่งหยางมีทรัพยากรพลังงานหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ ทั้งน้ำมัน/ถ่านหิน/ก๊าซธรรมชาติ รวมถึงพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้เหมาะกับการดำเนินงานแบบบูรณาการ “พลังงาน + ศูนย์ข้อมูล” โดยปริมาณก๊าซธรรมชาติที่คาดการณ์ทางธรณีวิทยาประมาณ 2 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร ถ่านหินประมาณ 2.36 แสนล้านตัน (11.8%) และน้ำมันประมาณ 7.88 พันล้านตัน (41%) นอกจากนี้ ยังเป็นฐานพลังงานระดับชาติสำหรับโครงการขนส่งถ่านหิน ส่งไฟฟ้าและลำเลียงก๊าซจากตะวันตก นอกจากนี้ ยังพัฒนาพลังงานลมและแสงอาทิตย์สูงถึง 22.2 ล้านกิโลวัตต์ รองรับการสร้างศูนย์ข้อมูลคาร์บอนต่ำและพลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

             3.4 ฐานพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านดิจิทัลครบวงจร เมืองชิ่งหยางมีบุคลากรด้านดิจิทัลจำนวนมากและสถาบันฝึกอบรมด้านเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีนโยบายสนับสนุนด้านที่อยู่อาศัย การศึกษา การทำงาน และสวัสดิการ รวมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของเมือง

          4. ความท้าทายและอุปสรรคในการพัฒนา

             4.1 โครงสร้างพื้นฐาน เมืองชิ่งหยางยังต้องเผชิญปัญหาต้นทุนการดำเนินงานสูงและโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่ครบครัน โดยเฉพาะเครือข่ายสื่อสารและการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีช่องทางจำกัด ศักยภาพการประมวลผลข้อมูลที่ยังไม่สูงมากนัก และการบริโภคข้อมูลดิจิทัลในพื้นที่ยังต่ำ ขาดบริษัท ICT ชั้นนำเข้ามาลงทุน

             4.2 เงินทุนไม่เพียงพอ การพัฒนาโครงการศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก แต่ความสามารถในการสนับสนุนทางการเงินของรัฐและเอกชนยังจำกัด

             4.3 ผลตอบแทนที่ไม่สมดุล รายได้หลักของเมืองชิ่งหยางมาจากค่าเช่าศูนย์ข้อมูล แต่รายได้จากการใช้ข้อมูลและบริการคลาวด์ส่วนใหญ่กลับไปอยู่กับบริษัทในเมืองตะวันออก ส่งผลให้รัฐบาลท้องถิ่นลงทุนสูงแต่ได้รับผลตอบแทนต่ำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลระยะยาว

          5. โอกาสสำหรับประเทศไทย ตามที่กงสุลและเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน ได้เยี่ยมชมโครงการ “East Data West Computing” ของเมืองชิ่งหยาง จึงมีความเห็นว่า โครงการดังกล่าวไม่เพียงแต่ยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของจีนเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้กับไทยหลายมิติ เช่น ด้านความร่วมมือทางเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านศูนย์ข้อมูล พลังงานสะอาด ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรด้านข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผ่านการฝึกอบรมและวิจัยร่วมระหว่างสถาบันไทย–จีน นอกจากนี้ การเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลระหว่างเมืองชิ่งหยางกับเขตเศรษฐกิจ EEC ของไทย ที่กำลังพัฒนา “Digital Park Thailand” และ “EEC Data Center” ซึ่งทั้งสองฝ่ายสามารถเชื่อมโยงกันผ่านระบบ Cloud Service/ Data Exchange/ Edge Computing หรือ AI Computing Network เพื่อรองรับการประมวลผลข้อมูลระหว่างประเทศ รวมทั้งสามารถเป็นกรณีศึกษาให้ไทยในการนำแนวทางการพัฒนา “พลังงาน–ข้อมูล–เทคโนโลยี” ของจีนมาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยได้อีกด้วย

 

*******************************

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. https://baike.baidu.com/item/%E5%BA%86%E9%98%B3%E2%80%9C%E4%B8%9C%E6%95%B0%E8%A5%BF%E7%AE%97%E2%80%9D%E4%BA%A7%E4%B8%9A%E5%9B%AD/66708025
  2. https://www.sohu.com/a/945540713_121924584
  3. 孙斌, 陈天竺, 张永勇.(2025). “东数西算”国家枢纽:庆阳打造千亿级算力集群.施工企业管理, 2025, 106-109.
  4. 刘伯霞, 谢晓娟,程婷,刘泓伯.(2024). “东数西算”工程庆阳数据集群建设存在的问题及路径选择. 发展, 2024, 27-33.
  5. 甘肃庆阳:借力“东数西算”建设智算之城.(27 March 2025).科技日报.

 

 

 

เรียบเรียงโดย ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน (BIC) ณ นครซีอาน

อรัญญา รุ่งเรือง
บุษย์น้ำเพชร บุญบรรจง

 4 พฤศจิกายน 2568

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ