กงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน เข้าพบหารือกับอธิบดีกรมพาณิชย์ มณฑลส่านซี

กงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน เข้าพบหารือกับอธิบดีกรมพาณิชย์ มณฑลส่านซี

วันที่นำเข้าข้อมูล 14 ก.พ. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 660 view

กงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน เข้าพบหารือกับอธิบดีกรมพาณิชย์ มณฑลส่านซี

                เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 นางสาวสุรีย์ ไตรรัตนนุกูล กงสุลใหญ่ ณ นครซีอาน พร้อมด้วย
นางสาววรรัตน์ พิริยานสรณ์ รองกงสุลใหญ่ และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เข้าพบหารือกับนางจ้าว จิ่ง(Zhao Jing: 赵璟) อธิบดีกรมพาณิชย์ มณฑลส่านซี และคณะผู้บริหารกรมพาณิชย์ฯ เพื่อหารือถึงโอกาสในการส่งเสริมความร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุน

                ในโอกาสนี้ อธิบดีฯ ได้กล่าวต้อนรับกงสุลใหญ่ฯ และคณะว่า  ในนามของสำนักงานฯ รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของการดำรงแหน่งอธิบดีฯ เป็นช่วงที่มีความท้าทายจากปัจจัยด้านสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 ตลอดจนยังเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจากฉบับที่ 13 ไปยังฉบับที่ 14 ซึ่งกรมการพาณิชย์ได้พยายามแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศ เพื่อยกระดับศักยภาพการค้าและการลงทุนของมณฑลส่านซีอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ 2564 ที่ผ่านมา มณฑลส่านซีทีอัตราการเติบโตของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.9 อีกทั้งเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ “ฉาง อัน ฮ้าว” (China Euro Freight Train) ยังคงครองสถิติเส้นทางขนส่งที่มีอัตราการเดินรถสูงสุดที่ 3,800 เที่ยว และในปี 2565 นี้ กรมการพาณิชย์ยังมุ่งมั่นที่จะแสวงหาช่องทางและโอกาสในการส่งออกเพิ่มเติม โดยได้วางเป้าหมายร่วมมือกับเมืองท่าพันธมิตรทางภูมิภาคตะวันออกของจีน เพื่อส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอาเซียน โดยใช้ประโยชน์จากการเป็นภาคีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)   

               กงสุลใหญ่ฯ กล่าวขอบคุณอธิบดีจ้าวฯ และผู้บริหารกรมพาณิชย์ฯ ที่ได้สนับสนุนภารกิจของสถานกงสุลใหญ่ฯ ด้วยดีมาโดยตลอด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ตนได้รับทราบชื่อเสียงของมณฑลส่านซีในด้านความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาโดยตลอด จากการเป็นที่ตั้งของนครซีอานซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 3 พันปี รวมถึงเป็นที่ตั้งของสุสานจักรพรรดิจิ๋นซีที่มีชื่อเสียงก้องโลก แต่หลังจากรับตำแหน่งกงสุลใหญ่มาได้เกือบ 1 ปี ตนมองภาพถึงศักยภาพอันมากมายของส่านซีทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทตโนโลยี นวัตกรรม พลังงานสะอาด รวมไปถึงด้านเทคโนโลยีการเกษตรคุณภาพสูง ซึ่งเหล่านี้ล้วนสอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยโมเดล BIO-Circular-Green หรือ BCG ของไทย นอกจากนี้ นครซีอานยังเป็นพื้นที่ศูนย์กลางความเจริญของภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งรวมของแรงงานทักษะ วิสาหกิจขนาดใหญ่ดังนั้น ตนจีงเห็นว่า หากทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมกันประชาสัมพันธ์ให้วิสาหกิจไทยเข้าถึงและเข้าใจศักยภาพของมณฑลส่านซีและนครซีอานได้มากขึ้น จะเป็นผลดีต่อการกระตุ้นการลงทุนตลอดจนการติดต่อการค้าในอนาคต โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไทยได้มุ่งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ การค้า และการลงทุนกับต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศการนำ RCEP ที่มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงต้นปีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและโอกาสทางด้านภาษีให้แก่วิสาหกิจไทย ตลอดจนการมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมในเส้นทางรถไฟจีน-ลาวที่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในช่องทางการขนส่งสินค้าจากจีนสู่อาเซียน และยังสามารถนำโมเดลการขนส่งหลายรูปแบบ (multimodal transportation) มาปรับใช้เพื่อร่นระยะเวลาการขนส่งได้เป็นอย่างดี ในปีนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ยังคงมุ่งมั่นในการแสวงหาความร่วมมือทั้งในด้านการค้า การลงทุน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคคล เพื่อดึงดูดวิสาหกิจทั้งจากในประเทศไปลงทุนยังประเทศไทย ตลอดจนการเร่งประชาสัมพันธ์ศักยภาพมณฑลส่านซี ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่นักลงทุนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมประเภท Emerging and high technology, Automobile and Parts, Food processing and Ago-processing และ Green Energy ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Bio-Circular-Green Economy (BCG) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ที่ยังเป็นธีมหลักในการประชุม APEC 2022 ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้ด้วย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ