เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ท่าอากาศยานนานาชาติซีอานเสียนหยาง Terminal 5 ได้เปิดใช้อาคารผู้โดยสารแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งการเปิดใช้งานอาคารผู้โดยสาร T5 ที่ท่าอากาศยานฯ แห่งนี้จะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมต่อของเมืองกับโลกภายนอก โดยเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารและขนส่งสินค้ารวมทั้งการเดินทางที่สะดวกขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากหลายประเทศ นอกจากนี้ ยังมีระบบอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสาร ทำให้นครซีอานกลายเป็นศูนย์กลางการบินระหว่างประเทศที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรมกับทั่วโลก

          การออกแบบสีของอาคารผู้โดยสาร T5 ใช้สีจาก Tang Tri-Color Glazed Ceramics ซึ่งมีการจัดหมวดหมู่ชัดเจน เช่น สีแดงสำหรับข้อมูลหลัก สีน้ำเงินสำหรับข้อมูลรอง และสีเหลืองสำหรับการแบ่งพื้นที่ตามภาษาหรือสัญลักษณ์ การขยายท่าอากาศยานฯ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารถึง 83 ล้านคนต่อปี และขนส่งสินค้า 1 ล้านตันต่อปี โดยสร้างเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่รวมการบิน รถไฟ และถนนไว้ด้วยกัน อาคารผู้โดยสาร T5 จึงเป็นทั้งศูนย์กลางการเดินทางที่สะดวกครบครัน

          นอกจากนี้ อาคารผู้โดยสาร T5 ยังมีพื้นที่นำเสนอประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมสำคัญของนครซีอานและมณฑลส่านซี เช่น (1) ภาพจิตกรรมภายในอาคารผู้โดยสาร T5 ซึ่งเป็นภาพจิตกรรมที่ถ่ายทอดทิวทัศน์ภูเขาจงหนานและการต้อนรับแสงรุ่งอรุณของห้าขุนเขา รังสรรค์ผลงานโดยศิลปินชื่อดังหลายท่าน สื่อถึงความรุ่งเรืองของเมืองฉางอานตั้งแต่ราชวงศ์ฉิน–ฮั่นจนถึงราชวงค์ถัง และบทบาทเป็นศูนย์กลางเส้นทางสายไหมโบราณที่เชื่อมตะวันออก–ตะวันตก จนถึงปัจจุบันท่าอากาศยานนานาชาติซีอานเสียนหยางยังคงเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญกับโลก (2) พิพิธภัณฑ์ท่าอากาศยานตะวันตก (T5) ครอบคลุม 6,400 ตร.ม. เป็นพิพิธภัณฑ์ท่าอากาศยานแห่งแรกของโลกที่มีการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยมีความหมายที่สื่อถึงการเชื่อมโยงและสืบทอดวัฒนธรรม “เส้นทางสายไหม” โดยได้จัดแสดงโบราณวัตถุที่ขุดค้นได้จากบริเวณท่าอากาศยานฯ ซึ่งจะเป็นการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ สิ่งของเครื่องใช้และวัตถุโบราณของเมืองฉางอัน

***************************************