โอกาสตลาดผลไม้ไทยในนครซีอาน

โอกาสตลาดผลไม้ไทยในนครซีอาน

วันที่นำเข้าข้อมูล 22 มี.ค. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 22 มี.ค. 2566

| 143 view

             โอกาสตลาดผลไม้ไทยในนครซีอาน


             ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑลส่านซีและรายได้ประชาชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวส่านซีจำนวนมากเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยม ซึ่งสถิติของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ นครเฉิงตู พบว่า ในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวส่านซีไปไทยสูงถึง 350,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 94 สูงเป็นอันดับ 3 ของชาวจีนในภูมิภาคตะวันตก รองจากนครฉงชิ่งและมณฑลเสฉวน

             จากการไปท่องเที่ยวในไทย ทำให้ประเพณีวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะอาหารและผลไม้ไทยเป็นที่นิยมชมชอบของชาวส่านซี และจากการที่ผลไม้ไทยเป็นผลไม้เขตร้อนที่เพาะปลูกไม่ได้ในมณฑลส่านซี ทำให้ปัจจุบันมีวิสาหกิจจีนหลายรายประกอบธุรกิจนำเข้าผลไม้ไทย อาทิ มะพร้าว ทุเรียน ลำไย และมังคุด มาจำหน่ายในนครซีอานซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซี และพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ดีจำนวนและประเภทของผลไม้ไทยที่นำเข้ามายังมีไม่มาก ทั้งที่นครซีอานมีประชากรจำนวนมาก (ประมาณ 12.95 ล้านคน) และมีความต้องการบริโภคสูง บทความนี้ จึงจะวิเคราะห์โดยสังเขปถึงศักยภาพตลาดผลไม้ไทยในนครซีอาน เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้นให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่สนใจเปิดหรือขยายตลาดผลไม้ไทยนครซีอาน

1. ภาพรวมผลไม้นำเข้าจากประเทศในกลุ่มอาเซียนของจีน

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 หน่วยงานควบคุมและตรวจสอบคุณภาพสินค้าแห่งชาติจีน (AQSIQ: Administration of Quality Supervision, Inspection and Quarantine) ได้ออกประกาศฉบับล่าสุดเกี่ยวกับรายชื่อ 48 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ และจำนวนประเภทผลไม้สดที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกมาจำหน่ายในประเทศจีนโดยไทยเป็น 1 ใน 48 ประเทศ และได้รับอนุญาตให้ส่งออกผลไม้ไปจีนได้ 22 ชนิด ซึ่งนับเป็นประเทศเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกผลไม้สดมากประเภทที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยดังรายละเอียด ดังนี้

ประเทศในกลุ่มอาเซียนและชนิดผลไม้ที่ได้รับอนุญาตส่งออกไปยังตลาดจีน

ลำดับ

ประเทศส่งออก ประเภทผลไม้สด

จำนวนประเภท

1

ไทย มะขาม ส้มเขียวหวาน น้อยหน่า ส้ม ส้มโอ มะละกอ มะเฟือง ฝรั่ง เงาะ ชมพู่ ขนุน ลองกอง สับปะรด ละมุด กล้วย เสาวรส มะพร้าว ลำไย ทุเรียน มะม่วง ลิ้นจี่ และมังคุด

22

2

เวียดนาม มะม่วง ลำไย กล้วย มังคุด ลิ้นจี่ แตงโม ขนุน แก้วมังกร และเงาะ

9

3

มาเลเซีย ลำไย มังคุด ลิ้นจี่ มะพร้าว แตงโม มะละกอ สับปะรด และเงาะ 8
4 พม่า ลำไย มังคุด ลิ้นจี่ มะม่วง แตงโม เงาะ แคนตาลูป และพุทรา

8

5

ฟิลิปปินส์ สับปะรด กล้วย มะม่วง มะละกอ มะพร้าว และผลอะโวคาโด

6

6

อินโดนีเซีย กล้วย ลำไย มังคุด สละและแก้วมงกร

5

7

กัมพูชา กล้วย มะม่วง

2

8

ลาว กล้วย แตงโม

2

9

บรูไน แคนตาลูป

1

2. ความต้องการบริโภคผลไม้สดในนครซีอาน และพฤติกรรมผู้บริโภค

นครซีอานเป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซี ตั้งอยู่ตอนกลางของมณฑลส่านซี มีขนาดพื้นที่ 700.69 ตารางกิโลเมตร และจำนวนประชากรประมาณ 12.95 ล้านคน (จากผลสำรวจ The 7th Nationwide Population Census Statistics in 2020 ของ Shaanxi Provincial Statistics Bureau) นอกจากนี้ นครซีอานยังเป็นเมืองที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจเร็วที่สุดในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน มีอัตราค่าจ้างเฉลี่ยอยู่ที่ 104,363 หยวน/คน/ปี ทำให้มีกำลังซื้อและอัตราการบริโภคสินค้าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน โดยทั่วไป ชาวซีอานจะนิยมจับจ่ายใช้สอยในเรื่องของการรับประทานอาหาร การแต่งตัว การบำรุงดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะการบริโภคสินค้าที่มีรสชาติแปลกใหม่ ทำให้ผลไม้นำเข้ากลายเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคชาวซีอานจำนวนไม่น้อย ทั้งนี้ โดยปกติชาวซีอานมีอัตราเฉลี่ยของปริมาณความต้องการบริโภคผลไม้อยู่ที่ประมาณ 165 กรัม/วัน/คน ซึ่งหากคำนวณตามจำนวนประชากร 12.95 ล้านคน จะพบว่า ชาวซีอานจะมีการบริโภคผลไม้อยู่ที่ประมาณวันละ 2,137 กิโลกรัม หรือปีละ 779,914 ตัน

2.1  ผลไม้ท้องถิ่น

จากข้อมูลของสำนักสถิติมณฑลส่านซีรายงานว่า ในปี 2563 มณฑลส่านซีมีพื้นที่เพาะปลูกผลไม้รวม 17.31 ล้านหมู่ หรือประมาณ 7.1 ล้านไร่ มีผลผลิตรวม 18.08 ล้านตัน โดยมีแอปเปิ้ลเป็นผลไม้หลักคิดเป็นสัดส่วน 65.6% ของผลผลิตผลไม้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีผลไม้ชนิดอื่น ๆ ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาดท้องถิ่นและตลาดมณฑลอื่น ๆ ด้วย อาทิเช่น กีวี สาลี่ พุทรา และส้ม

ผลผลิตผลไม้สด 10 อันดับแรก และราคาขายปลีก 5 อันดับแรกในมณฑลส่านซีในปี 2563

ลำดับที่

ผลไม้ ผลผลิต/ปี (ล้านตัน)

ราคา (หยวน/กิโลกรัม)

1

แอปเปิ้ล 11.85 4-5

2

กีวี 1.16

4-5

3

พุทรา 1.10

4-5

4

สาลี่ 1.04

2-3

5

องุ่น 0.81

15-30

6

ลูกท้อ 0.76

6-15

7

ส้ม 0.52

4-5

8

ลูกพลับ 0.31

5-8

9

เชอร์รี่ 0.14

15-20

10 แอปริคอท 0.13

6-15

 

2.2  ตลาดผลไม้ไทยในนครซีอาน มณฑลส่านซี  

ตามข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ของไทย แจ้งว่า ในปี 2564 จีนนําเข้าผลไม้จากไทย 2,104,305 ตัน มูลค่า 6,536.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.91% จากปี 2563 โดยผลไม้ไทยยอดนิยมในจีน 5 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียน (39%) ลำไย (22%) มะพร้าว (16%) มังคุด (11%) และส้มโอ (1%)

ในส่วนของมณฑลส่านซี ตามสถิติของศุลกากรซีอาน แจ้งว่า ในปี 2564 มณฑลส่านซีได้นำเข้าผลไม้จากต่างประเทศ 4638.34 ตัน มูลค่า 91.66 ล้านหยวน โดยเป็นผลไม้ไทยมากที่สุดคิดเป็นสัดส่วน 54% จำนวน 2533.69 ตัน (เพิ่มขึ้น 18.7% จากปี 2563) คิดเป็นมูลค่า 42.54 ล้านหยวน

จากการสำรวจความนิยมรับประทานผลไม้ไทยระหว่างการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ เทศกาลสงกรานต์ เทศกาลประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยร่วมกับห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น และการหารือกับผู้นำเข้าผลไม้ไทยในนครซีอาน ทราบว่า ปัจจุบัน ผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากผู้บริโภคชาวซีอานมี 4 ชนิด ได้แก่ มะพร้าว ลำไย มังคุด และ ทุเรียนสด และ ผู้บริโภคชาวซีอานชอบซื้อผลไม้ตามฤดูกาล และช่วงจำหน่ายดีที่สุดของผลไม้คือช่วงวันเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ (ระหว่างช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี) และเทศกาลตรุษจีน (ระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี)

           ผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากผู้บริโภคชาวซีอาน 4 อันดับแรก

ผลไม้

ราคาเฉลี่ย (ราคาปลีก) ช่วงเวลาจำหน่ายดีที่สุด

มะพร้าว

10-30 หยวน/ลูก

ทุกฤดู

ลำไย

20-50 หยวน/กิโลกรัม

ช่วงเทศกาลสำคัญ

มังคุด

60-150 หยวน/กิโลกรัม

ช่วงเทศกาลสำคัญ

ทุเรียนสด

90-150 หยวน/กิโลกรัม

เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม

 

2.3  พฤติกรรมผู้บริโภคผลไม้ในนครซีอาน

(1)  เนื่องจากนครซีอานอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งมีอากาศค่อนข้างแห้งแล้ง ชาวซีอานจึงนิยมรับประทานผลไม้ที่มีน้ำมากและรสชาติหวาน

(2)  ผลไม้ท้องถิ่นของมณฑลส่านซี แตกต่างกับผลไม้ไทยอย่างมาก โดยที่มีการยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวซีอานและการแสวงหาสิ่งใหม่ จึงทำให้สามารถชูจุดเด่นของผลไม้ไทยที่แตกต่างกันได้

(3) แม้ผลไม้ท้องถิ่นจะมีราคาถูกกว่า แต่ชาวส่านซียังคงนิยมบริโภคผลไม้ไทยในรูปแบบการเป็น “self-reward” และจะซื้อผลไม้ที่ไม่ค่อยรับประทาน/หาทานไม่ง่าย เป็นของขวัญให้แก่ตัวเองหรือครอบครัวในวันสำคัญ ดังนั้น การสร้างคุณค่า สร้างเรื่องราว และให้ความหมายกับผลไม้ไทยและแต่งบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม เป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างกลยุทธจำหน่าย

3.การขนส่งผลไม้ไทยมานครซีอาน

การขนส่งผลไม้จากไทยมายังนครซีอานมีหลากหลายช่องทาง ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางทะเล
ทั้งนี้ ในปี 2560 ท่าอากาศยานนานาชาติซีอานเสียนหยางได้รับการอนุมัติให้เป็นด่านกักกันสำหรับผลไม้นำเข้า ทำให้ผู้นำเข้าสามารถขนส่งผลไม้จากไทยมายังนครซีอานได้โดยตรงผ่านการขนส่งทางอากาศ ซึ่งใช้ระยะเวลาน้อยที่สุด ประมาณ 1-2 วัน แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูง กลายเป็นเพิ่มต้นทุนราคาของผลไม้ ผู้นำเข้าส่วนใหญ่จึงใช้การขนส่งทางอากาศเฉพาะผลไม้ที่เน้นคุณภาพ/ความพรีเมี่ยม แต่ปัจจุบันนี้ โดยข้อจำกัดจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรค COVID-19 ทำให้เที่ยวบินขนส่งตรงระหว่างไทย-ส่านซี ถูกระงับชั่วคราว

เนื่องจากนครซีอานตั้งอยู่ในแผ่นดินตอนในของจีน ซึ่งนอกจากด่านของท่าอากาศยานนานาชาติซีอานเสียนหยางแล้ว จึงไม่มีด่านนำเข้าผลไม้โดยตรงอื่น ๆ ทั้งทางบก/ทะเล ทำให้การนำเข้าผลไม้มาจำหน่ายในนครซีอาน  ต้องผ่านด่านอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าผลไม้ เช่น ด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนาน,  ด่านโหย่วอี้กวนในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง, ด่านกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ก่อนขนส่งต่อมายังนครซีอาน

4.ช่องทางการจำหน่ายผลไม้ในนครซีอาน

4.1  ตลาดค้าส่งผลไม้/ร้านค้าส่งผลไม้ เป็นตลาดที่ผู้นำเข้าผลไม้จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากนั้นร้านค้าส่งผลไม้ จะรับผลไม้ไปกระจายส่งต่อให้ร้านค้าปลีก

4.2  ซุปเปอร์มาร์เก็ต เป็นช่องทางการจำหน่ายที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เนื่องจากมีความสะดวกสามารถหาซื้อสินค้าได้หลากหลาย พร้อมมีบริการและสันทนาการต่างๆ ที่ครบวงจร ดังนั้น แม้ชนิดของผลไม้นำเข้าจะไม่มาก แต่เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายมีความหลากหลาย และทางซุปเปอร์มาร์เก็ตแต่ละแห่งจะมีกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่าย เช่นการแจกผลไม้ให้ชิมฟรี การลดราคาจำหน่าย เป็นต้น จึงทำให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆพยายามสรรหาผลไม้นำเข้าที่หลากหลายมารองรับความต้องการผู้บริโภค

 

 

4.3 ร้านค้าปลีกผลไม้ ผลไม้มีความหลากหลายและราคาไม่สูงมากนัก และทางร้านค้าปลีก ยังให้บริการจัดเป็นชุดของขวัญ (ผลไม้) จึงทำให้ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเช่นกัน

4.4 ร้านค้าผลไม้ออนไลน์ เป็นช่องทางการสั่งซื้อที่ผู้บริโภครุ่นใหม่นิยมใช้ ปัจจุบัน ร้านและซูเปอร์มาร์เก็ตในนครซีอานมีช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ แต่ปัจจุบัน มีการสั่งซื้อออนไลน์เฉพาะผลไม้นำเข้าที่จัดการส่งภายในพื้นที่จำกัด และมีผลไม้นำเข้าจำหน่ายออนไลน์ชนิดไม่มาก เนื่องจากราคาแพง การจำหน่ายออนไลน์มีความเสี่ยงต่อการเน่าเสียระหว่างการขนส่งและลูกค้ามีสิทธิขอคืนสินค้า แต่ก็มีเยาวชนจำนวนไม่น้อยที่นิยมซื้อผลไม้นำเข้าออนไลน์จากเมืองอื่นๆ ที่มีผลไม้หลากชนิดมากกว่าทั้งจากกวางตุ้ง ยูนนาน ไห่หนาน เป็นต้น

 

(ขอบคุณรูปภาพจาก TikTok 水果啊宇 榴莲二 果源鲜)

5.โอกาสของการตลาดผลไม้ไทยในนครซีอาน

5.1 คุณภาพและราคา
มณฑลส่านซีมีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยเฉพาะนครซีอานที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ของประชากรเพิ่มสูงต่อเนื่อง ซึ่งมาพร้อมกับความต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดจนความต้องการในสินค้าทางเลือก/สินค้าพรีเมี่ยมก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

และจากการสำรวจพบว่าชาวซีอานนิยมบริโภคผลไม้ไทยสูง ในขณะที่ความหลากหลายของผลไม้ไทยในตลาดซีอานค่อนข้างน้อย จำกัดอยู่เพียงทุเรียนสดใหม่ มะพร้าว ลำไย และมังคุด และผู้ประกอบการเลือกนำสินค้าที่ได้รับความนิยม/ติดตลาดอยู่แล้วมาจำหน่าย ทำให้เกิดการแข่งขันในด้านราคาและคุณภาพ ดังนั้น ผลไม้ไทยที่จะเข้ามาจำหน่ายจึงต้องเน้นคุณภาพ รสชาติ และความสดใหม่

 

5.2 เทรนด์ความนิยมและโอกาสของผลไม้ชนิดอื่น

เนื่องจากนครซีอานตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือ อากาศค่อนข้างแห้งแล้ง ชาวซีอานนิยมรับประทานผลไม้ไทยแบบสด ที่มีน้ำมากและนิยมรสหวาน ตลอดจนยังเริ่มเปิดรับผลไม้แปลกใหม่แตกต่างไปจากผลไม้เดิม ๆ เช่น สับปะรดภูแลที่ผ่านการตัดแต่งบรรจุในถุงสูญญากาศ, ขนุน ที่มีรสหวานและรูปร่างแปลกใหม่, หรือส้มโอก็ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคขาวนครซีอานมากขึ้น นอกจากนี้ พบว่าในปีที่ผ่านมา ผลไม้ตัดแต่งสำเร็จรูป “ready-to-eat” ก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในนครซีอานอย่างมาก โดยเฉพาะสับปะรดภูแล ตลอดจนแก้วมังกร แคนตาลูป มะเขือเทศ เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบหรืออยู่อาศัยคนเดียว จึงนิยมบริโภคผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสมกับตนเอง จึงถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีสำหรับผู้ประกอบการผลไม้ดังกล่าว

 

5.3  จัดแพคเกจผลไม้ประยุกต์ให้เข้ากับเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ของจีน

ชาวส่านซีนิยมซื้อผลไม้ที่มีราคาแพงในเทศกาลสำคัญของจีน อาทิ เทศกาลเรือมังกร (เดือนมิถุนายน) เทศกาลไหว้พระจันทร์ (เดือนกันยายนถึงตุลาคม) และโดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีน (เดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม) นักธุรกิจสามารถนำเข้าผลไม้ไทยในช่วงเวลาดังกล่าว

 

(ขอบคุณรูปภาพจาก Taobao 榴莲一刻)

5.4  จับมือร่วมกับห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น
การจำหน่ายผลไม้ในตลาดผู้บริโภคระดับกลางและระดับบนตามระดับรายได้ของผู้บริโภคโดยคัดตามเกรดคุณภาพ เพื่อจำหน่ายให้กับผู้บริโภคที่มีรายได้ต่างกัน เช่น การจำหน่ายผลไม้คุณภาพดีในห้างสรรพสินค้าระดับสูง เช่น ห้างสรรพสินค้า SKP, ห้างสรรพสินค้า Wangfujing, และผลไม้คุณภาพระดับกลางในห้างสรรพสินค้าสัญชาติจีน เช่น ห้างสรรพสินค้า Saga ที่ครองตลาดผู้บริโภคระดับกลางควบคู่ไปกับการให้ความรู้ทางด้านโภชนาการคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ตลอดจนการจัดประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของผลไม้ไทยในตลาดนครซีอาน

5.5  นำผลไม้ไทยสู่ตลาด E-commerce นครซีอาน
ผู้บริโภคชาวจีนนิยมใช้ E-commerce เป็นช่องทางในการซื้อสินค้ามากขึ้น ปัจจุบัน ร้านขายผลไม้ออนไลน์ของนครซีอานยังไม่ค่อยมีการจำหน่ายผลไม้ไทย ผู้ประกอบการนำเข้าผลไม้ไทยสามารถร่วมมือกับร้านขายผลไม้ออนไลน์ของนครซีอานเพิ่มขยายช่องทางการจำหน่าย และยังสามารถลดผลกระทบของสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งจากการสอบถามผู้ประกอบการ ในปี 2565 บริษัท Sihai Fruits ได้เพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินค้าและบริการในสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะทาง Douyin (抖音: TikTok ของจีน) ซึ่งพบว่า ช่องทางออนไลน์ทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น

 

6ความท้าทายของธุรกิจนำเข้าผลไม้ไทยในนครซีอาน

BIC ได้เคยไปสำรวจตลาดค้าส่งผลไม้ยวี่รุ่น นครซีอาน ซึ่งเป็นตลาดค้าผลไม้ท้องถิ่นและนำเข้าขนาดใหญ่ที่สุดในนครซีอาน มีร้านค้าส่งผลไม้กว่าร้อยแห่ง เป็นร้านค้าส่งผลไม้นำเข้ากว่า 20 แห่ง เป็นศูนย์กระจายผลไม้ท้องถิ่นของมณฑลส่านซี ผลไม้นำเข้าจากมณฑลอื่น และผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศ ส่งต่อไปไปยังเมืองต่าง ๆ ในมณฑลส่านซี และเมืองใกล้เคียงต่างมณฑล อาทิ นครหยินชวน เขตฯ หนิงเซี่ยหุย และนครหลานโจว มณฑลกานซู จากการสำรวจ ได้รับทราบปัญหา/อุปสรรคในการนำเข้าผลไม้ไทย ดังนี้

6.1  ต้องใช้ระยะเวลาเพิ่มขึ้นในการขนส่งผลไม้ไทยจากด่านนำเข้ามายังนครซีอาน ในขณะที่ ผลไม้สดมีอายุในการเก็บรักษาค่อนข้างสั้น จึงทำให้โอกาสเน่าเสียของผลไม้เพิ่มขึ้น กอรปกับค่าขนส่งสูงกว่าพื้นที่อื่น ๆ ทำให้ต้นทุนการจำหน่ายผลไม้ไทยสูงขึ้น

6.2  ช่วงที่ผลไม้ไทยเป็นที่ต้องการในตลาดนครซีอานมากที่สุด เป้นช่วงเดือนตุลาคม-เดือนกุมภาพันธ์

ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสำคัญของชาวจีน และเป็นช่วงฤดูหนาวที่ผู้บริโภคในพื้นที่มีความต้องการบริโภคผลไม้เมืองร้อนสูง แต่ช่วงเวลาดังกล่าวมีผลไม้ไทยไม่มากนัก ในขณะที่ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี เป็นช่วงที่มีผลไม้ไทยจำหน่ายหลากหลายชนิดที่สุด อาทิ มะพร้าว ทุเรียน มังคุด และลำไย ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานในตลาดไม่ตรงกัน

6.3  ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ทางการจีนได้เพิ่มความเข้มงวดต่อการตรวจสอบความปลอดภัยของสินค้านำเข้าจากต่างประเทศรวมถึงผลไม้ บ่อยครั้งที่พบว่าในแต่ละเมือง/พื้นที่มีการบังคับใช้มาตรการที่แตกต่างกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรหมั่นตรวจสอบมาตรการรวมถึงระเบียบข้อบังคับอยู่เสมอ ในส่วนของมณฑลส่านซีและนครซีอานนั้น ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบมาตรการและระเบียบข้อบังคับในการนำเข้าผลไม้ไทยมายังนครซีอานได้ที่ http://snamr.shaanxi.gov.cn/ssjgy.jsp?wbtreeid=1517

สรุป

ปี 2565 ตลาดการนำเข้าผลไม้ไทยมาสู่ประเทศจีน โดยเฉพาะการเข้ามาสู่มณฑลชั้นในของจีน รวมถึงนครซีอาน ยังคงได้รับผลกระทบอย่างมากจากมาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดของประเทศจีน ซึ่งผู้ที่สนใจนำเข้าผลไม้/ผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยควรหมั่นตรวจสอบมาตรการต่าง ๆ อยู่เสมอ อย่างไรก็ดี ศูนย์ BIC นครซีอานเล็งเห็นว่า การบริโภคผลไม้ไทยโดยเฉพาะในฤดูทุเรียน ยังคงได้รับความนิยม  และตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้บริโภคชาวซีอาน เห็นได้จากเมื่อวันที่ 14 – 18 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ห้างโลตัสซุปเปอร์  เซ็นเตอร์ สาขาถนนถังเหยียน นครซีอาน จำหน่ายทุเรียนสด 6.4 ตันภายในเวลาเพียงไม่ถึง 2 วัน วัน แสดงให้เห็นว่าทุเรียนไทยยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวซีอานอย่างมาก ดังนั้น โอกาสในการนำเข้าผลไม้ไทยมาสู่ตลาดผู้บริโภคในนครซีอานยังคงเปิดกว้าง ศูนย์ BIC นครซีอาน จึงหวังว่าบทความนี้ น่าจะเป็นประโยชน์มากก็น้อยสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจส่งออกผลไม้ไทยเข้ามายังตลาดในนครซีอาน

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. กรมการค้าต่างประเทศ, “สถานการณ์ผลไม้และการบริโภคผลไม้ของชาวจีน”, หน้าที่ 4, 1 มีนาคม 2565, https://www.ditp.go.th/ditp_web61/article_sub_view.php?filename=contents_attach/764118/764118.pdf&title=764118&cate=413&d=0
  2.  http://www.tourismthailand-chengdu.org/
  3. http://www.cnr.cn/sxpd/shgl/20181122/t20181122_524423386.shtml
  4. https://data.stats.gov.cn/index.htm
  5. http://tjs.customs.gov.cn/
  6. http://xian.customs.gov.cn/customs/302249/302270/302272/4094527/index.html